การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
เว็บไซต์ที่มีรูปแบบธุรกิจของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบ B2B,B2C,C2C,Click and
Motar,Click and Click
1. พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทธุรกิจกับธุรกิจ (Business-to-Business หรือ B2B) หมายถึง
การซื้อขายระหว่างผู้ผลิตด้วยกัน เช่น ผู้ผลิตรถยนต์สั่งซื้อวัตถุดิบจากโรงงานที่เป็นSupplier หรือ ร้านค้าปลีกสั่งซื้อสินค้ากับบริษัทผู้ผลิตสินค้า
เมื่อสต็อกสินค้าลดลงถึงระดับหนึ่ง ผ่านระบบ EDI โดยส่วนใหญ่ผู้ซื้อและผู้ขายมักจะรู้จักกันล่วงหน้า
และอาจทำเอกสารสัญญาที่เป็นกระดาษกันล่วงหน้า ดังนั้นความเสี่ยงที่เกิดจากการซื้อขายจะต่ำ
ตัวอย่างเว็บไซต์ Business-to-Business (B2B)
http://www.bigc.co.th/th/
http://www.bigc.co.th/th/
http://www.siammakro.co.th/
2. พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทธุระกิจกับบริโภค(Business-to-Consumer
หรือ B2C) หมายถึง
การที่ธุรกิจขายสินค้าหรือบริการโดยตรงให้กับผู้บริโภค
ช่องทางนี้เป็นช่องทางที่ผู้ผลิตขนาดกลางและขนาดเล็กสามารถฉกฉวยเป็นโอกาสในการต่อสู้กับบริษัทขนาดใหญ่ได้
ตัวอย่างเว็บไซต์ Business-to-Consumer (B2C)
3. พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทผู้บริโภคกับผู้บริโภค
(Consumer-to-Consumer หรือ C2C) เป็นการค้าระหว่างบุคคลกับบุคคล
หรือระหว่างผู้ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตด้วยกันเอง
ตัวอย่างเว็บไซต์ Consumer-to-Consumer (C2C)
http://www.ebay.com
http://www.thaishop.in.th/
4.C2B (Consumer-to-business) ก็เป็นรูปแบบการค้าที่ใกล้ตัวมากๆ
จนเรานึกไม่ถึง เป็นรูปแบบการค้าที่ Consumer หรือผู้ใช้นำสินค้ามา
Reviews หรือวิเคราะห์สินค้า
จนเว็บเราดังมีคนสนใจเข้ามาชมมาก เราก็จะทำธุรกิจ (Business) กับ Amazon โดยการเอาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับที่เรา Reviews
มาขาย ซึ่งถ้าขายได้ Amazon ก็จะแบ่งตังให้กับเรา
หรือแม้แต่ Adsense ก็เป็นธุรกิจแบบ C2B คือ Consumer ทำธุรกิจกับ Business โดยนำเสนอสิ่งที่ Business ต้องการ ซึ่งในกรณี Adsense
ที่เขาต้องการก็คือเนื้อหาเว็บที่ดีมีประโยชน์ของ Consumer ที่ทาง Google จะเอาไปขายต่อให้กับพวกที่ต้องการโฆษณาบนเว็บที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสินค้าตนเอง
หรือพวกที่ทำ Adwords ไงครับ
ตัวอย่างเว็บไซต์ Consumer-to-business (C2B)
http://www.naiin.com/
http://www.amazon.com/
4. Click-and-Mortar
Business Strategy หรือ Bricks-and-clicks
Business Strategy หรือHybrid Strategyคือ
เป็นกลยุทธ์ที่ผสมระหว่าง 2 กลยุทธ์แรกมารวมกัน
โดยมีทั้งหน้าร้านซึ่งลูกค้าสามารถเดินเลือกซื้อช่องทางการค้าบนอินเตอร์เน็ตจะทำให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายมากขึ้นสามารถทำธุรกรรมต่างๆ
เช่น ซื้อขายได้จนจบ ไม่ต้องไปหน้าร้านจริงก็ได้
ตัวอย่างเว็บไซต์Click-and-Mortar
Business Strategy
5.click
and click คือ E-Commerce ที่มีรูปแบบการค้าขายหรือการให้บริการ
ผ่านทางเว็บไซต์และอินเทอร์เน็ต เพียงช่องทางเดียวเท่านั้น
ไม่มีธุรกิจหรือหน้าร้านค้าจริงๆ ให้คนสามารถไปซื้อหรือรับสินค้าได้
ดังนั้นเมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้าจากเว็บไซต์
ทางเว็บไซต์จะทำการส่งสินค้าไปให้ลูกค้าถึงที่อยู่ของลูกค้านั้นๆ
ตัวอย่างเว็บไซต์click and click
ประโยชน์ของการค้าแบบออนไลน์
1.โฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้า ได้อย่างกว้างขวาง
2.สามารถเพิ่มโอกาสทำรายได้ให้แก่ผู้ทำ E-Commerce ได้อย่างมากเลยทีเดียว
3.ลูกค้าสามารถเข้าชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง
4.การทำ E-Commerce เป็นการตลาดที่ใช้ต้นทุนต่ำ
5. สามารถเข้าถึงลูกค้าที่ใช้บริการ Internet ได้ง่ายมาก ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
2.สามารถเพิ่มโอกาสทำรายได้ให้แก่ผู้ทำ E-Commerce ได้อย่างมากเลยทีเดียว
3.ลูกค้าสามารถเข้าชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง
4.การทำ E-Commerce เป็นการตลาดที่ใช้ต้นทุนต่ำ
5. สามารถเข้าถึงลูกค้าที่ใช้บริการ Internet ได้ง่ายมาก ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
ข้อจำกัดของการค้าแบบออนไลน์
1.ต้องมีระบบการรักษาความปลอดภัยของระบบที่มีประสิทธิภาพ
2.ไม่สามารถเข้าถึงลูกค้าที่ไม่ได้ใช้บริการอินเทอร์เนตได้
3.ขาดความเชื่อมั่นในเรื่องการชำระเงินผ่านทางบัตรเครดิต
4.ขาดกฎหมายรองรับในเรื่องการดำเนินการธุรกิจขายสินค้าแบบออนไลน์
5.การดำเนินการทางด้านภาษียังไม่ชัดเจน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น